เทคโนโลยีและวิทยาการสมัยใหม่ไม่ใช่เรื่องยากที่จะพิสูจน์ตรวจหาญาติพี่น้อง หรือเพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคลในทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นการนำเอาวิชาความรู้ในทางด้านวิทยาศาสตร์ในการเก็บและพิสูจน์หลักฐาน ตรวจร่างกายและวัตถุพยานเพื่อช่วยในการค้นหาความจริง มักเป็นการใช้วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์หรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์ เช่น ชีววิทยา ฟิสิกส์ กายภาพ เคมี คอมพิวเตอร์ และกีฏวิทยา เป็นต้น เพื่อประโยชน์ในการสืบสวน และดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อช่วยกระบวนการยุติธรรมในการพิสูจน์หลักฐานและชี้นำไปสู่ผู้กระทำความผิดอาญา
DNA เป็นสารพันธุกรรมและสามารถถ่ายทอดข้อมูลพันธุกรรมนี้ไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน DNA เปรียบเสมือนหนังสือคู่มือในการสั่งให้สร้างคุณขึ้นมา โดยปรกติแล้วDNAส่วนใหญ่ของคนเราจะเหมือนกันในแต่ละคนเช่นจะมีลักษณะ สองตา สองหู หนึ่งจมูก แต่มันจะมีตัวแปรบางตัวแปรจำนวนหนึ่งของ DNA ที่ทำให้เราดูแตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะอย่างนี้ DNA จึงสามารถใช้ในการพิสูจน์เอกลักษณ์ของบุคคล ในยุคปัจจุบันนี้เรื่องการสืบหาความเป็นพ่อ แม่ พี่น้อง หรือสืบเชื้อสายว่ามีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดหรือไม่นั้น คงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ด้วยความที่เรามีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำไปมาก จึงสามารถหาคำตอบได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว และมีผลค่อนข้างแม่นยำ นั่นก็คือวิธีการตรวจหา DNA
การตรวจดีเอ็นเอเป็นการตรวจเพื่อแสดงความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างบุคคล ดังนั้นหากบุคคลที่เข้าร่วมทดสอบไม่มีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ค่าความแม่นยำของผลการทดสอบสามารถยืนยันได้ 100% ซึ่งหมายความว่าไม่มีความสัมพันธ์กันอย่างแน่นอน แต่หากบุคคลที่เข้าร่วมการทดสอบมีความสัมพันธ์กันทางสายเลือด ผลการทดสอบจะแสดงค่าความความเชื่อมั่นที่ 99.999% หมายถึงว่ามีความสัมพันธ์กันทางสายเลือดอย่างแน่นอน ในทางปฏิบัติจะพิจารณาความแม่นยำของการทดสอบร่วมกับปัจจัยทางชีวภาพ ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง ทำให้ผลการทดสอบมีความแม่นยำและความน่าเชื่อถือสูงมาก ในบางห้องปฏิบัติการอาจมีการทดสอบแบบแผนสารพันธุกรรมจากสิ่งส่งตรวจของบุคคลที่สามเพิ่มเติม แต่ในปัจจุบันไม่เป็นที่นิยมแล้ว การตรวจDNAเพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดาอาจไม่ได้ตรวจเพียงวิธีเดียว เช่นเดียวกับหลักการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการทั่วไป ในกรณีที่ต้องการทดสอบความเป็นพี่น้องหรือลูกหลานเว้นชั่วอายุคน พบว่าด้วยเทคนิคดังกล่าวจะความแม่นยำประมาณร้อยละ 90